รู้ทันดอกเบี้ย…วางแผนการเงินเพื่อซื้อบ้าน

รู้ทันดอกเบี้ย…วางแผนการเงินเพื่อซื้อบ้าน

สำหรับเราชาว Gen Y และ Gen Z หากจะมีบ้านสักหลัง คงต้องพึ่งสินเชื่อจากสถาบันการเงิน  และเมื่อต้องใช้บริการสินเชื่อ ก็ต้องมาพร้อมกับดอกเบี้ย เพราะเราต้องผ่อนชำระกันยาวๆ

แล้วผ่อนแบบไหนให้ได้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด คือคำถามที่ถูกใจใครหลายๆคน

ก่อนอื่นขอบอกว่าต้องเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจ เกี่ยวกับดอกเบี้ยบ้านแต่ละประเภทเพราะข้อมูลในส่วนนี้เกี่ยวข้องกับการวางแผนทางการเงินที่ดี

เริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกับแบบที่ 1  “เงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่” หรือที่เรียกกันคุ้นหูว่า Fixed rate loan

สินเชื่อบ้านประเภทนี้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท

1. อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นช่วงแรกอาจจะ 1-2 ปี แล้วจึงเปลี่ยนมาเป็นอัตราดอกเบี้ยลอยตัว

2. อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอดระยะเวลากู้ ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ตามประกาศของสถาบันการเงิน ณ ขณะที่เรากู้ โดยจะไม่ปรับเปลี่ยนขึ้นหรือลงตามสถานการณ์ตลาดเงินหรือต้นทุนทางการเงินของสถานบันการเงิน

3. อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะสั้นแบบขั้นบันไดในช่วงแรกจากนั้นเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว เช่น กำหนดให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี ปีแรก 4.25% ปีที่สอง 5.25% แล้วหลังจากนั้นจะปรับเป็นอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว

ต่อมา แบบที่ 2 คือ เงินกู้อัตราดอกเบี้ยลอยตัว หรือที่เรียกว่า Floating rate loan

หมายถึงอัตราดอกเบี้ยที่กำหนด ณ ปัจจุบัน และจะใช้ไประยะเวลาหนึ่ง แต่ต่อมาอาจปรับเปลี่ยนขึ้นหรือลงตามสถานการณ์ตลาดการเงินหรือต้นทุนทางการเงินของสถาบันการเงิน ในบางปีอาจมีการปรับหลายครั้งหรือบางปีอาจไม่มีการปรับเปลี่ยนเลยก็ได้

แบบที่ 3 เงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่งและปรับให้คงที่ใหม่ทุกรอบเวลา หรือ Rollover Mortgage Loan

หมายถึงเงินกู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ระยะหนึ่ง เช่น 1-3 ปี และจะปรับเป็นคงที่ใหม่ทุกรอบเวลา 1 ปี 3 ปี ตลอดระยะเวลากู้นาน 25-30 ปี

แล้วกู้ซื้อบ้านด้วยเงื่อนไขแบบไหนจึงจะได้ดอกเบี้ยต่ำที่สุด ผ่อนได้เบาๆ มีวิธีง่ายๆ มาแนะนำกัน

1, เก็บออมเพื่อชำระเงินดาวน์ให้มากที่สุด เพราะยิ่งมีเงินดาวน์มากเท่าไหร่ เงินกู้ก็จะลดลง เมื่อเงินกู้ลด เราก็ผ่อนได้สบายตัวขึ้น

2. เลือกธนาคารที่ดอกเบี้ยต่ำที่สุด เงื่อนไขดีที่สุด ด้วยการเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขของแต่ละธนาคารให้ดี หากวางแผนผ่อนระยะยาว ให้ดูอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ต่ำที่สุด แต่ถ้าอยากจะผ่อนระยะสั้นปิดหนี้ให้จบก่อนครบสัญญา ให้ดูดอกเบี้ยที่ช่วงปีแรกให้น้อยที่สุด เพื่อจะได้ผ่อนให้น้อยที่สุด

3 หากรายได้เพิ่มขึ้น ให้รีบโปะเงินต้นให้ได้มากที่สุด เพราะหากเรามีเงินก้อนใหญ่ไปโปะ ให้เงินต้นจากราคาบ้านลดลง ดอกเบี้ยก็จะลดลงตาม ทำให้เสียค่าผ่อนต่อเดือนน้อยลงไป โดยเฉพาะในช่วง 3 ปีแรกของการผ่อนชำระ ที่อัตราดอกเบี้ยจะยังต่ำอยู่ ทำให้เราโปะเงินต้นได้มาก ช่วยดอกเบี้ยลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน

4. หาวิธีลดดอกเบี้ยลงอีกเมื่อผ่อนครบ 3 ปี เพราะส่วนใหญ่ทุกธนาคารอัตราดอกเบี้ยบ้านในช่วง 3 ปีแรกจะถูกกว่า จากนั้นจะขยับปรับสูงขึ้น ซึ่งหมายถึงเราจะต้องผ่อนบ้านในราคาที่แพงขึ้น แต่ปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วย 2 วิธีการ คือ

  • ขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารเดิม หากเราเป็นลูกหนี้ชั้นดี โอกาสที่ธนาคารจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ก็มีสูง เพราะธนาคารก็อยากจะรักษาลูกหนี้ดีๆ ไว้
  • ทำการ Refinance หรือย้ายไปผ่อนกับธนาคารอื่น กรณีที่ธนาคารเดิมไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ แต่การย้ายธนาคารก็จำเป็นจะต้องเปรียบเทียบเงื่อนไข และคำนวณค่าใช้จ่าย อาทิ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้ดี

            เพียงเท่านี้เราก็วางแผนการเงินเพื่อซื้อบ้านได้ดอกเบี้ยต่ำสุด ผ่อนได้สบายๆ

Facebook

Register







    ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการ

    ให้เราได้เป็นส่วนหนึ่งในการค้นหาของคุณ
    Search
    คำค้นหายอดนิยม

    Register