
ในปี 2025 แนวคิด Sustainable Living หรือการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน ไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์อีกต่อไป แต่คือวิถีชีวิตที่หลายครอบครัวทั่วโลกรวมถึง คนไทยหลายคนหันมาให้ความสำคัญ โดยเฉพาะเรื่อง ขยะอาหาร (Food Waste) ที่กลายเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกอยู่ ณ ตอนนี้
องค์การสหประชาชาติ (UNEP) รายงานว่า แต่ละปีทั่วโลกมีขยะอาหารมากกว่า 1,300 ล้านตัน ซึ่งก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกกว่า 8% ของการปล่อยทั้งหมด เท่ากับการเผาผลาญพลังงานของประเทศมหาอำนาจทั้งประเทศรวมกัน
การลดขยะอาหารเริ่มได้ง่ายๆ จากในครัวบ้านคุณเอง
1. วางแผนการซื้อของ (Smart Shopping)
เขียนรายการก่อนเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตและเช็กตู้เย็นและตู้กับข้าวว่ามีอะไรเหลืออยู่
ใช้กฎ “ซื้อเท่าที่กินได้ใน 3–5 วัน” เพื่อความสดใหม่ จะได้กินทันไม่หมดอายุและเหลือทิ้ง
เคล็ดลับ: แอปพลิเคชันอย่าง “Too Good To Go” หรือ “Olio” ช่วยให้คุณได้อาหารใกล้หมดอายุในราคาถูก แถมยังช่วยลดการสูญเสียอาหาร
2.เข้าใจวันหมดอายุ (Best Before ≠ Expired)
หลายคนทิ้งอาหารเร็วเกินไปเพราะเข้าใจผิด “Best Before” หมายถึงควรทานก่อนวันที่ระบุเพื่อคุณภาพที่ดีที่สุด แต่ไม่ใช่ว่ากินไม่ได้
ตัวอย่าง: นมที่ “ควรบริโภคก่อน” 10 กันยายน ยังสามารถทานได้อีก 2–3 วันหากเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิถูกต้อง

3. เก็บอาหารอย่างชาญฉลาด (Food Storage Hacks)
ผักใบเขียวเก็บในกล่องพลาสติกเจาะรู ระบายอากาศ ผลไม้บางชนิด เช่น กล้วย อะโวคาโด ควรเก็บนอกช่องแข็ง
ใช้ถุงสุญญากาศหรือตู้เย็นอัจฉริยะช่วยยืดอายุอาหาร
4. แปรรูปอาหารเหลือให้กลายเป็นเมนูใหม่ (Creative Cooking)
บางทีข้าวสวยที่เหลือจากการหุง 1 หม้อ เอาไว้ทำข้าวผัด เป็นมื้ออร่อยไปได้อีกจาน หรือไก่ที่อบทั้งตัวมา ก็นำมาทำเป็นแซนวิชหรือ หมี่ไก่ฉีกก็ยังได้
5. ใช้เศษอาหารอย่างคุ้มค่า (Zero Waste Kitchen)
เปลือกผักผลไม้ สามารถนำมาทำเป็นปุ๋ยหมักธรรมชาติได้
กากกาแฟ สาวๆจะใช้ขัดผิวหรือจะใช้เพื่อดับกลิ่นตู้เย็นก็ได้

6. แชร์และแบ่งปัน (Food Sharing)
ทำเยอะเกินไปก็แจกให้เพื่อนบ้านเป็นการผูกมิตร หรือ บริจาคให้มูลนิธิหรือองค์กรที่รับอาหารเหลือ
ใช้แพลตฟอร์ม Food Sharing Online ที่ต่างประเทศมี “Community Fridge” ตู้เย็นกลางชุมชนสำหรับแลกเปลี่ยนอาหาร ซึ่งโมเดลนี้เริ่มมีในบางพื้นที่ของไทยแล้ว
7. ใช้เทคโนโลยีช่วย (Green Tech for Home)
ปี 2025 มีนวัตกรรมมากมายที่ช่วยให้ครอบครัวลด Food Waste ได้ เช่น ตู้เย็นอัจฉริยะ ที่แจ้งเตือนวันหมดอายุผ่านมือถือ, แอป Meal Planner ที่จัดตารางเมนูจากของที่มีอยู่แล้วในตู้เย็น, เซ็นเซอร์ความชื้น ที่ช่วยเก็บผักให้นานขึ้น
พฤติกรรมที่ควรเลิกถ้าอยากลดขยะอาหาร
- ซื้อเพราะ “โปรโมชั่น 1 แถม 1” ทั้งที่ไม่ได้กินจริง
- ใส่ทุกอย่างเข้าตู้เย็นโดยไม่สนใจวิธีเก็บที่เหมาะสม
- ปรุงอาหารเกินจำนวนคนในบ้าน
ถ้าทุกบ้านช่วยกันคนนิดเราสามารถลดขยะอาหาร 30% ต่อครัวเรือน = ประหยัดเงิน 1,500–3,000 บาท/เดือน
ลดขยะส่งไปยังเทศบาล 15 กิโลกรัมต่อคน/เดือนทั้งยังลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มหาศาล และรักษาทรัพยากรน้ำ/ที่ดินสำหรับอนาคต
การลดขยะอาหารไม่ใช่เรื่องยาก และยังเป็นก้าวแรกที่ทุกบ้านทำได้ทันทีเพื่อเข้าสู่การใช้ชีวิตแบบ Sustainable Living 2025
ลองเริ่มจากเล็กๆ เช่น วางแผนเมนู เก็บอาหารอย่างถูกวิธี หรือแบ่งปันให้เพื่อนบ้าน แล้วคุณจะเห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ สามารถสร้างผลกระทบใหญ่ต่อโลกใบนี้ได้จริง
เริ่มวันนี้ = โลกที่ยั่งยืนสำหรับพรุ่งนี้