
- เลือกช่วงเวลาที่รัฐมีมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอน-จดจำนอง
ค่าธรรมเนียมมาตรฐานโดยปกติแล้ว ผู้ซื้อบ้านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายดังนี้:
ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ = 2% ของราคาประเมิน
ค่าจดจำนอง = 1% ของวงเงินกู้
ตัวอย่าง: บ้านราคา 2 ล้านบาท กู้เต็มจำนวน
ค่าโอน = 2,000,000 × 2% = 40,000 บาท
ค่าจดจำนอง = 2,000,000 × 1% = 20,000 บาท
รวม = 60,000 บาท
ประโยชน์จากมาตรการรัฐ
เมื่อรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ มักจะลดอัตราเหลือ:
ค่าโอน: 0.01-1%
ค่าจดจำนอง: 0.01-0.5%
จากตัวอย่างเดิม บ้าน 2 ล้านบาท จะลดจาก 60,000 บาท เหลือเพียง ไม่กี่พันบาทเท่านั้น
เทคนิค: ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมจากเพจอสังหาฯหรือกรมที่ดิน เพื่อเลือกช่วงเวลาซื้อบ้านให้เหมาะสม
- เลือกโครงการที่มีโปรโมชั่น “ฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน”
โปรโมชั่นยอดนิยมจากผู้พัฒนา เนื่องจากในตลาดแข่งขันสูง หลายโครงการมักเสนอโปรโมชั่น เช่น ฟรีค่าธรรมเนียมโอน ฟรีค่าจดจำนอง ฟรีค่าประกันอัคคีภัย ฟรีค่าอนุมัติสินเชื่อ หรืออื่นๆ
การคำนวณความคุ้มค่า
สำหรับบ้านราคา 2-3 ล้านบาท โปรโมชั่นเหล่านี้ช่วยประหยัดได้ 50,000-100,000 บาท
เทคนิค: เวลาเปรียบเทียบโครงการ อย่าดูเพียงราคาบ้าน แต่ต้องรวมค่าใช้จ่ายวันโอนทั้งหมดด้วย เพราะบางครั้งโครงการที่ราคาแพงกว่าเล็กน้อย อาจคุ้มค่ากว่าหากมีโปรฟรีค่าใช้จ่ายครบ

- เทคนิคการต่อรอง – ขอของแถมแทนส่วนลดเงินสด
ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ หรือเรื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นภายในบ้าน บางที่อาจจะมีโปรโมชั่นฟรีแอร์ทั้งหลัง หรือ เฟอร์ทั้งหลัง แม้แต่วัสดุตกแต่ง เช่น ผ้าม่านทั้งหลัง จัดสวน
เทคนิค: ถามโครงการเสมอว่า “มีของแถมอะไรให้เลือกบ้าง” และประเมินมูลค่าของแถมเทียบกับส่วนลดเงินสด
- เปรียบเทียบสินเชื่อหลายธนาคาร เลือกดอกเบี้ยที่คุ้มที่สุด
การกู้ซื้อบ้านเป็นภาระการเงินระยะยาว 20-30 ปี ดอกเบี้ยที่ต่างกันเพียงเล็กน้อยส่งผลต่อค่าใช้จ่ายรวมอย่างมาก
ตัวอย่างการคำนวณ
บ้านราคา 3 ล้านบาท กู้ 30 ปี
ดอกเบี้ย 4.5% → ดอกเบี้ยรวม 30 ปี ≈ 2.6 ล้านบาท
ดอกเบี้ย 4.0% → ดอกเบี้ยรวม 30 ปี ≈ 2.2 ล้านบาท
ประหยัดได้ 400,000 บาท!
เทคนิค: เปรียบเทียบอย่างน้อย 3-4 ธนาคาร และคำนวณค่าใช้จ่ายรวมตลอดสัญญา ไม่ใช่เพียงดอกเบี้ยปีแรก

- วางแผนและควบคุมงบตกแต่งบ้านตั้งแต่เริ่มต้น
การตั้งงบประมาณตกแต่ง
งบปกติ: 10-15% ของราคาบ้าน
ตัวอย่าง: บ้าน 2 ล้านบาท → งบตกแต่ง 200,000-300,000 บาท
วางแผนการใช้จ่ายตามลำดับความจำเป็นในการใช้ชีวิต เช่น ครัว Built-in,ห้องน้ำ/สุขภัณฑ์, ผ้าม่าน/มู่ลี่
, ครื่องปรับอากาศ รองลงมาจะเป็น วอลเปเปอร์/สีผนัง, พี้นไม้/กระเบื้อง, ระบบไฟ/โคมไฟ ที่เหลือจึงเป็นของตกแต่งเพิ่มเติมเพื่อความสวยงาม
เคล็ดลับประหยัดงบตกแต่ง
เลือกบ้าน Fully Furnished หากงบจำกัด
ซื้อของช่วง Sale ใหญ่ เช่น งาน Home Pro Expo, Power Buy Expo
ผสมผสานของราคาต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ของแบรนด์เดียวกันทั้งหมด
เคล็ดลับประหยัดสำหรับผู้ซื้อบ้านยุคใหม่ การซื้อบ้านไม่ใช่เรื่องที่ทำให้ค่าใช้จ่ายบานปลายอีกต่อไป หากวางแผนอย่างรอบคอบด้วย 5 เทคนิคนี้ การวางแผนล่วงหน้าเพียงเล็กน้อยนี้ สามารถช่วยประหยัดได้เป็น หลักแสนบาท ทำให้การเป็นเจ้าของบ้านหลังแรกไม่ใช่เรื่องน่ากังวล