ฝนตก เดินทางไม่สะดวก แถมต้องมาลุ้นกันด้วยว่าเส้นทางที่เราต้องผ่านไปนั้นน้ำจะท่วมหรือเปล่า

ช่วงเวลาแบบนี้ใครจะเชื่อบ้างว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการหาซื้อบ้าน เพราะจะช่วยให้เราได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด ทางเข้าโครงการน้ำจะท่วมหรือไม่ ภายในโครงการระบบระบายน้ำดีพอมั๊ย มาตรฐานการก่อสร้างบ้านเป็นอย่างไร ฝนตกน้ำรั่วซึมเข้าตัวบ้านหรือเปล่า ไปครั้งเดียวได้คำตอบครบ คลายทุกข้อกังวล

แล้วการหาซื้อบ้านหน้าฝนดีอย่างไร เรามีคำตอบ

1. เห็นสภาพทำเลที่ตั้งโครงการที่แท้จริง

หากเดินทางไปดูบ้านในช่วงหน้าฝน เราจะได้เห็นปัญหาเกี่ยวกับฝนทั้งหมด ตั้งแต่การเดินทางในช่วงฝนตก  เริ่มตั้งแต่ปัญหารถติดมากน้อยแค่ไหน ได้เห็นสภาพถนนว่ามีสภาพเป็นหลุมบ่อหรือมีน้ำขังหรือไม่ และเราจะได้เห็นพื้นที่โดยรอบของโครงการมีสภาวะน้ำท่วมขังหรือไม่ในช่วงที่ฝนตก

2. ระบบการระบายน้ำของโครงการดีหรือไม่

เพราะเมื่อฝนตกจะเจอกับปัญหาน้ำท่วมขัง หากไม่มีการจัดการที่ดีการระบายน้ำก็อาจจะช้า จนน้ำล้นทะลักเข้าบ้านได้  ซึ่งหากเราซื้อบ้านแล้วย้ายเข้าอยู่อาศัยแล้วปัญหานี้แก้ไขไม่ง่าย เพราะนอกจากทางโครงการต้องเข้ามาดูแลและยังไปเกี่ยวข้องกับที่ดินข้างเคียงด้วย ดังนั้นถ้าเราเข้าไปดูบ้านในช่วงหน้าฝน ก็มีโอกาสที่จะได้ตรวจเช็กก่อนที่จะตัดสินใจซื้อได้

3. เห็นสภาพบ้านจริงๆ เมื่อเจอฝนตก

ปัญหาที่หลายๆ คนไม่สบายใจและทำให้ไม่รู้ว่าจะตรวจสอบอย่างไรก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน คือปัญหาน้ำรั่วซึม ฝนสาดเข้าตัวบ้านทางหน้าต่าง หรือการรั่วซึมผ่านช่องหน้าต่าง หลังคามีน้ำหยดหรือไม่ ชายคามีความยาวพอที่จะป้องกันฝนสาดหรือไม่  ก็เข้าไปดูบ้านช่วงหน้าฝนจะทำให้เราเห็นร่องรอยการรั่วซึม แต่จะดีกว่ามากๆ หากทางโครงการออกแบบก่อสร้างบ้านโดยมีระบบที่ป้องกันปัญหาไว้ให้บ้านทุกหลัง

สำหรับบ้านของ Kanda Property ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด Flood Protection ซึ่งเป็นหนึ่งใน 5 Kanda Concept ที่ให้ความสำคัญกับระบบการป้องกันน้ำท่วมในโครงการตั้งแต่การถมดิน การวางระดับตัวบ้าน การออกแบบรั้วโครงการให้ทึบน้ำ การเตรียมพื้นที่สำหรับระบบสูบน้ำ รวมถึงการออกแบบขอบปูนป้องกันน้ำเข้าทางช่องหน้าต่างทุกบาน ที่เรียกว่า “Double Protect” ทำให้บ้านของ Kanda Property อยู่ได้อย่างอุ่นใจในช่วงหน้าฝนได้เลย